เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID Technology) และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI, Artificial Intelligence)

เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID Technology) และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI, Artificial Intelligence) ได้มีการกล่าวถึงมาตั้งแต่ปี 1950  เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID Technology) เป็นการสื่อสารแบบไร้สายด้วยการใช้คลื่นวิทยุ  โดยจะมีการติดอาร์เอฟไอดีแท๊ก (RFID Tag) บนชิ้นงานหรือสิ่งของต่าง ๆ   ทันทีที่อาร์เอฟไอดีแท๊ก (RFID Tag) ผ่านเครื่องอ่านอาร์เอฟไอดี (RFID Reader)  ข้อมูลต่าง ๆ ที่มีการบันทึกไว้ในอาร์เอฟไอดีแท็ก (RFID Tag)  ก็จะถูกส่งเข้าสู่ระบบโดยอัตโนมัติ 

ส่วนเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI, Artificial Intelligent)  เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้เหมือนคนหรือใกล้เคียง  โดยเทคโนโลยีดังกล่าวจะรวมถึงการเรียนรู้  การวิเคราะห์ และแก้ปัญหา  เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI, Artificial Intelligent) มีการนำอัลกอลิธัมต่าง ๆ มาทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับ  เพื่อการทำคาดการณ์อนาคต  และทำการตัดสินใจ ตัวอย่างเช่น การนำเทคโนโลยี AI ไปใส่ไว้ในกล้อง เพื่อทำการคาดการณ์ลักษณะการเดิน หรือการเคลื่อนไหวของลูกค้าในร้าน  หรือการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI, Artificial Intelligent) มาทำการคาดการณ์พฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้าเป็นต้น

การทำงานร่วมกันระหว่างเทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID Technology) และปัญญาประดิษฐ์ (AI, Artificial Intelligence)

เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID Technology) เกี่ยวข้องโดยตรงกับความถูกต้องแม่นยำของข้อมูล  และความเร็วในการระบุตัวตนของสิ่งต่าง ๆ  ในขณะที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI, Artificial Intelligence) จะเกี่ยวข้องกับความสามารถในการคาดการณ์ และการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ตามข้อมูลที่ได้รับ   เมื่อมีการนำเทคโนโลยีทั้งสองมาใช้งานร่วมกัน   จะพบว่าเทคโนโลยีทั้งสองจะเป็นประโยชน์ซึ่งกันและกัน   ตัวอย่าง เช่น

 เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID Technology)เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI, Artificial Intelligence)
ภาคการผลิต การติดอาร์เอฟไอดีแท๊ก (RFID Tag) บนชิ้นงานการผลิต  ผู้ผลิตสามารถที่จะรับรู้ได้ว่า กระบวนการผลิตแต่ละขั้นโดยอัตโนมัติ  โดยไม่ต้องเสียเวลาให้เจ้าหน้าที่ที่หน้างานทำการอ่านข้อมูล   เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI, Artificial Intelligence) จะทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับ  เพื่อที่จะระบุขั้นตอนการทำงานที่เป็นคอขวด และทำการวางแผนเพื่อจัดสรรทรัพยากรการผลิตให้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภาคการจัดส่ง การติดอาร์เอฟไอดีแท๊ก (RFID Tag) ที่พาเลท หรือคอนเทนเนอร์การขนส่ง (Shipping container) ทำให้เราสามารถติดตาม  และคอยตรวจสอบการขนส่งเหล่านั้นได้อย่างแม่นยำ  ลดความผิดพลาดในการขนส่งเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI, Artificial Intelligence)  จะทำการวิเคราะห์ที่ เพื่อกำหนดเส้นทางในการจัดส่งสินค้า ด้วยข้อมูลจากการอ่านอาร์เอฟไอดีแท๊ก เป็นต้น  
ภาคการขนถ่ายวัสดุ (Material Handling)   การติดอาร์เอฟไอดีแท๊ก (RFID Tag) บนอุปกรณ์ที่ใช้ในการขนส่ง เช่น รถ Forklift เป็นต้น  ช่วยทำให้ ทราบถึงตำแหน่งของอุปกรณ์เหล่านั้น  และสถานะว่าอุปกรณ์เหล่านั้นว่ามีการใช้งานอยู่หรือไม่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI, Artificial Intelligence)  จะทำการวิเคราะห์เพื่อวางแผนการใช้อุปกรณ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น  และช่วยนำข้อมูลไปวางแผนเพื่อการบำรุงรักษา

โดยสรุป เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ต้องการข้อมูลเพื่อช่วยวิเคราะห์ปัญหา  และการคาดการณ์ต่าง ๆ  ในขณะที่เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID Technology) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยในการเก็บข้อมูลที่มีความแม่นยำสูง   และสามารถส่งข้อมูลต่าง ๆ ไปที่ระบบต่าง ๆ อย่างถูกต้อง ดังนั้นการนำเทคโนโลยีทั้งสองมาใช้งานร่วมกันทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการการทำงานเป็นอย่างมาก  เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์สามารถวางแผนและคาดการณ์ได้แม่นยำเพิ่มมากขึ้น

Access control reader with multiple identification technologies

Currently, there are many access control readers which employ face scan camera to read both face scan and QR code. However, there are limitations when using camera to scan QR code. The QR code needs to be in a good position or adequate lighting. Realizing on these limitations, we offer new access control reader which is embedded with both face scan function and QR code engine to avoid the problem on QR code scanning.


This access control reader is highly used in building management or fitness centers where it needs to support both permanent user and temporary visitor. Face scan or RFID card features will employ for permanent user while QR code will apply for temporary visitor. Scanning QR code for visitor can reduce the effort or investment on RFID card for temporary visitor.