Posts

Identify RFID Linen Management on Cloud

IdentifyRFID which has worked in RFID technology for more than 20 years has released Linen Management on Cloud.  This cloud based solution is designed to help hospitality and hotel to minimize cost in track and trace uniform and linen.

This solution is designed to be easy to use and simple to install because the solution is designed on web-based.  Benefits may include:    

  • Eliminate certain manual task and automate record keeping for linen in and out
  • Increase the visibility on the linen in stock by checking from dash board
  • Lowering of laundry expense by helping reduce laundry expenses by controller cleaning activity and preventing overcharges from outside laundries.

NFC Temperature Logger

NFC Temperature Tracker is a portable powered smart sensor that tracks and stores temperature readings.  The NFC tag can be read locally by radio frequency identification (RFID) readers, such as mobile phones, or export the data for analytic purposes.  This NFC tag provides low-cost temperature monitoring.

This NFC tag contains a precise temperature sensor, digital storage, a flexible battery, and supports NFC.  The sensor is also configurable — enabling frequent measurements for detailed logging or longer intervals to provide logging for extended periods — and can be calibrated to a customer’s application needs.   The tracker can communicate with a variety of NFC devices using an application on consumer mobile devices or industrial equipment to read the complete logged history recorded on the tracker.  Even after battery life has drained, the tracker can still be used as a passive temperature sensor label, providing the present ambient temperature. The entire memory content, including the measurement values, are still fully accessible, eliminating the risk of data loss and enabling further applications even after the data-logging capability has stopped.

The water-resistant sensor is easily attached with an adhesive backing that can be affixed to various surfaces. The front side of each label can be graphically personalized for specific customer branding, can be printed with offset CMYK and/or Pantone colors, and comes with a protective surface for enhanced protection against harsh environments.

การเปรียบเทียบเทคโนโลยี RFID และเทคโนโลยีการอ่านป้ายทะเบียนอัตโนมัติ

ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีทั้งสองมาใช้ในการบริหารรถเป็นอย่างมาก  เทคโนโลยีการอ่านป้ายทะเบียนอัตโนมัติ (Automatic Number Plate Recognition, ANPR) เป็นระบบการอ่านป้ายทะเบียนรถ ซึ่งใช้เทคนิค OCR (Optical Character Recognition)   โดยการใช้ระบบกล้อง Infrared ทำการถ่ายภาพป้ายทะเบียน  และใช้ระบบซอฟท์แวร์ทำการแปลงภาพที่อ่านได้เป็นข้อมูล  ในขณะที่เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID, Radio Frequency Identification)  เป็นอีกเทคโนลียีที่มีการนำมาใช้งาน  เพื่อใช้ในการบริหารจัดการรถ  โดยจะมีอาร์เอฟไอดีแท๊ก (RFID Tag) ติดที่ตัวรถ  และมีการติตตั้งเครื่องอ่าน (RFID Reader) ในจุดที่ต้องการเพื่อทำการส่งข้อมูลจากอาร์เอฟไอดีแท๊ก (RFID Tag)  เมื่อมีการนำเทคโนโลยีทั้งสองมาใช้ในการบริหารรถ  แต่ทั้งสองใช้เทคนิคที่แตกต่างกัน  ทั้งสองเทคโนโลยีมีความได้เปรียบและเสียเปรียบในแต่ละด้านดังต่อไปนี้

ความแม่นยำและความน่าเชื่อถือของข้อมูล

การรับส่งข้อมูลของระบบอาร์เอฟไอดี (RFID Technology)  จะมี Protocol ในการสื่อสารระหว่างอาร์เอฟไอดีแท๊ก (RFID Tag) และเครื่องอ่านอาร์เอฟไอดี (RFID Reader)  ซึ่ง Protocol นี้จะลดข้อผิดพลาดต่าง ๆในการสื่อสาร และมีตรวจสอบข้อมูล (CRC) ว่า  ข้อมูลที่สื่อสารกันถูกต้องหรือไม่  ในขณะที่ระบบ ANPR จะใช้วิธีการถ่ายภาพข้อมูลที่ป้ายทะเบียน  และใช้ซอฟท์แวร์ทำการแปลค่าที่ถ่ายได้  ตัวอย่างเช่น  เมื่อได้ภาพจากป้ายทะเบียน  ระบบซอฟท์แวร์จะทำการประมวลผลว่า  ภาพที่ถ่ายได้มีความน่าจะเป็นที่เป็นตัวเลขใดโดยการเทียบข้อมูลที่มีอยู่  เช่น  97% เป็นเลข “1”  และ 80% เป็นเลข “7”  จากการประมวลผลดังกล่าว  ระบบ ANPR ก็จะแปลความหมายตัวเลขที่อ่านได้ว่า  เป็นเลข “1” เพราะความน่าจะเป็นมากกว่า  จากการที่ระบบ ANPR ใช้วิธีการแปลความจากภาพที่ถ่ายได้  ทำให้สภาพแวดล้อมมีผลต่อข้อมูลที่ได้รับ  ตัวอย่างเช่น  ป้ายทะเบียนที่เปียกชื้น หรือสกปรก เป็นต้น สิ่งเหล่านี้มีผลต่อภาพถ่ายที่กล้องจะจับภาพได้  ในขณะที่เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID Technology)  ใช้การเก็บข้อมูลด้วยคลื่นวิทยุ  ดังนั้นสภาพแวดล้อมย่อมไม่มีผลการส่งข้อมูล

ความปลอดภัย

เนื่องจากเทคโนโลยี ANPR ใช้เทคนิคการถ่ายภาพเพื่อนำมาประมวลผล  จึงมีความปลอดภัยค่อนข้างต่ำ  หากป้ายที่นำมาอ่าน เป็นภาพถ่ายทะเบียนรถที่มีความคมชัดสูง  ระบบ ANPR  ก็จะทำการแปลความหมายว่าเป็นทะเบียนรถ  ต่างจากเทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID Technology)  ที่ข้อมูลที่เครื่องอ่าน (RFID Reader) นำมาประมวลผลนั้น  ต้องเกิดจากการอ่านอาร์เอฟไอดีแท๊ก (RFID Tag) เท่านั้น  นอกจากนั้นระบบอาร์เอฟไอดี (RFID Technology) ยังรองรับการตั้งระดับความปลอดภัยในการอ่านข้อมูลจากอาร์เอฟไอดีแท๊ก (RFID Tag)  โดยปกติการตั้งระดับความปลอดภัยในเทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID Technology) มีตั้งแต่การตั้งรหัสผ่าน  หรือการใส่รหัส  นอกเหนือจากการเพิ่มความปลอดภัยด้วยซอฟท์แวร์  ปัจจุบันอาร์เอฟไอดีแท๊ก (RFID Tag)  ยังมีการป้องการการปลอมแปลง  โดยอาร์เอฟไอดีแท๊ก (RFID Tag) จะฉีกขาด  เมื่อมีความพยายามที่จะลอกอาร์เอฟไอดีแท๊ก (RFID Tag)  ไปติดที่รถคันอื่น

เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID Technology) และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI, Artificial Intelligence)

เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID Technology) และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI, Artificial Intelligence) ได้มีการกล่าวถึงมาตั้งแต่ปี 1950  เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID Technology) เป็นการสื่อสารแบบไร้สายด้วยการใช้คลื่นวิทยุ  โดยจะมีการติดอาร์เอฟไอดีแท๊ก (RFID Tag) บนชิ้นงานหรือสิ่งของต่าง ๆ   ทันทีที่อาร์เอฟไอดีแท๊ก (RFID Tag) ผ่านเครื่องอ่านอาร์เอฟไอดี (RFID Reader)  ข้อมูลต่าง ๆ ที่มีการบันทึกไว้ในอาร์เอฟไอดีแท็ก (RFID Tag)  ก็จะถูกส่งเข้าสู่ระบบโดยอัตโนมัติ 

ส่วนเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI, Artificial Intelligent)  เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้เหมือนคนหรือใกล้เคียง  โดยเทคโนโลยีดังกล่าวจะรวมถึงการเรียนรู้  การวิเคราะห์ และแก้ปัญหา  เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI, Artificial Intelligent) มีการนำอัลกอลิธัมต่าง ๆ มาทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับ  เพื่อการทำคาดการณ์อนาคต  และทำการตัดสินใจ ตัวอย่างเช่น การนำเทคโนโลยี AI ไปใส่ไว้ในกล้อง เพื่อทำการคาดการณ์ลักษณะการเดิน หรือการเคลื่อนไหวของลูกค้าในร้าน  หรือการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI, Artificial Intelligent) มาทำการคาดการณ์พฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้าเป็นต้น

การทำงานร่วมกันระหว่างเทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID Technology) และปัญญาประดิษฐ์ (AI, Artificial Intelligence)

เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID Technology) เกี่ยวข้องโดยตรงกับความถูกต้องแม่นยำของข้อมูล  และความเร็วในการระบุตัวตนของสิ่งต่าง ๆ  ในขณะที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI, Artificial Intelligence) จะเกี่ยวข้องกับความสามารถในการคาดการณ์ และการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ตามข้อมูลที่ได้รับ   เมื่อมีการนำเทคโนโลยีทั้งสองมาใช้งานร่วมกัน   จะพบว่าเทคโนโลยีทั้งสองจะเป็นประโยชน์ซึ่งกันและกัน   ตัวอย่าง เช่น

 เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID Technology)เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI, Artificial Intelligence)
ภาคการผลิต การติดอาร์เอฟไอดีแท๊ก (RFID Tag) บนชิ้นงานการผลิต  ผู้ผลิตสามารถที่จะรับรู้ได้ว่า กระบวนการผลิตแต่ละขั้นโดยอัตโนมัติ  โดยไม่ต้องเสียเวลาให้เจ้าหน้าที่ที่หน้างานทำการอ่านข้อมูล   เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI, Artificial Intelligence) จะทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับ  เพื่อที่จะระบุขั้นตอนการทำงานที่เป็นคอขวด และทำการวางแผนเพื่อจัดสรรทรัพยากรการผลิตให้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภาคการจัดส่ง การติดอาร์เอฟไอดีแท๊ก (RFID Tag) ที่พาเลท หรือคอนเทนเนอร์การขนส่ง (Shipping container) ทำให้เราสามารถติดตาม  และคอยตรวจสอบการขนส่งเหล่านั้นได้อย่างแม่นยำ  ลดความผิดพลาดในการขนส่งเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI, Artificial Intelligence)  จะทำการวิเคราะห์ที่ เพื่อกำหนดเส้นทางในการจัดส่งสินค้า ด้วยข้อมูลจากการอ่านอาร์เอฟไอดีแท๊ก เป็นต้น  
ภาคการขนถ่ายวัสดุ (Material Handling)   การติดอาร์เอฟไอดีแท๊ก (RFID Tag) บนอุปกรณ์ที่ใช้ในการขนส่ง เช่น รถ Forklift เป็นต้น  ช่วยทำให้ ทราบถึงตำแหน่งของอุปกรณ์เหล่านั้น  และสถานะว่าอุปกรณ์เหล่านั้นว่ามีการใช้งานอยู่หรือไม่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI, Artificial Intelligence)  จะทำการวิเคราะห์เพื่อวางแผนการใช้อุปกรณ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น  และช่วยนำข้อมูลไปวางแผนเพื่อการบำรุงรักษา

โดยสรุป เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ต้องการข้อมูลเพื่อช่วยวิเคราะห์ปัญหา  และการคาดการณ์ต่าง ๆ  ในขณะที่เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID Technology) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยในการเก็บข้อมูลที่มีความแม่นยำสูง   และสามารถส่งข้อมูลต่าง ๆ ไปที่ระบบต่าง ๆ อย่างถูกต้อง ดังนั้นการนำเทคโนโลยีทั้งสองมาใช้งานร่วมกันทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการการทำงานเป็นอย่างมาก  เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์สามารถวางแผนและคาดการณ์ได้แม่นยำเพิ่มมากขึ้น

Safety RFID Tag

Reusing RFID tag is one requirement for several RFID projects. However, reusing RFID tag always comes with lower security. Because such RFID tag must be designed to be easily to take out in order to re-attach to new items.
Identify offers new type RFID tag which is designed to support tag reusing while not lowering the security. This RFID tag is complied with UHF RFID. It can work with any UHF RFID readers. Additionally, it needs a detacher to detach the tag. This can ensure that the tag will be removed at the right station ONLY. See below VDO for tag detail.

RFID Technology For Item Unable To Attach RFID Tag

Attaching RFID tag to individual item can be trouble for some items such as screw or liquid product.  However, this is not an obstacle for using RFID technology.  Identify has development a RFID solution for those items that are unable to attach RFID tag.  We employ RFID sensor to manage the inventory of these items via the pressure.  Using the level of pressure on RFID sensor tag, our software will calculate the quantity of such product and translate this into inventory level.  The inventory of such item can be monitored in real time with minimum human input.

Dual Technology RFID Tag

Although both EAS and RFID technologies use radio frequency, normal RFID tag cannot work with EAS gate alarm. This is a limitation for those companies who are using EAS and would like to expand to use RFID technology. Identify introduces the new RFID tag to overcome this obstacle.

The new RFID tag can support both RFID and EAS technologies. It is complied with EPC C1G2 standard. At the same time, this RFID tag can work with EAS technologies either 8.2 MHz or 58 KHz. bands. With the dual technologies, this tag can be used as RFID tag to enhance supply chain operation. Simultaneously, it can be employed with the existing EAS reader for security purpose. The tag has various form factors in order to fulfill various requirements.

RFID Middleware On Cloud

Besides RFID reader and RFID tags, one essential factor for a successful RFID project is RFID middleware. RFID middleware plays significant part in any RFID projects. The key function of this software is to control RFID reader, to manage RFID reader reading function and to filter RFID tags. This software will filter and send the clean data to any software applications.


With the extensive experience in RFID technology, we found that many RFID projects fail because of RFID middleware. Some RFID middleware cannot manage RFID reader effectively. In addition, some projects need to invest a lot on the development of RFID middleware. This can be a key obstacle for SMEs.


To overcome above limitation, we have developed a RFID middleware on cloud solution. This middleware can work with multiple readers. Now our RFID middleware supports Speedway, Thingmagic (Jadak) and FEIG RFID readers. This middleware is in cloud based so it can connect with any RFID readers as long as they are in the same network. This will reduce the cost on middleware development and also reduce the cost on IT infrastructure.

Thai version https://www.thaipr.net/it/3408544.

Integrated UHF RFID Reader

Description  

The Kathrein ARU 2000 reader family is a basic RAIN RFID reader with an integrated antenna for indoor applications in logistics, manufacturing and supply chain applications. Its best in class 27-dBm UHF RF unit and connectivity interface PoE and the basic level processing unit allow for a flexible integration into Industry 4.0 and IoT solutions. Based on the latest RFID standards, such as EPC Gen2v2/ISO 18000-63, Kathrein ARU 2000 series support all market leading transponder chip features

Key Technica Data

  • Dimensions: 300 mm x 300 mm x 49 mm  
  • Computer Interface: TCP/IP
  • RF Interface: Internal antenna with 3 additional external antenna port
  • GPIO: 2 inputs and 2 outputs
  • DC Power: 10 to 30 VDC
  • Operating frequency: 920-925  MHz
  • Supported transponders: EPC C1 Gen 2
  • Reading distance typical: Up to 3-5 M
  • Operating temperature:  –20 °C up to +55 °C
  • Storage temperature: –40 °C up to +85 °C
  • Protection standard: IP40

New Low Cost RFID Tag for Metal Product

Box containing with metal surface product inside is an challenging task for any RFID projects, particularly in medical sector. Most of medical product is packed in metal foil bag for medical purpose. Normal RFID label fails to deliver the satisfied result because the product inside interfering the radio wave. RFID flag tag can be a good solution but this will impact the appearance of the product. Identify proposes a new UHF RFID label for this application. UHF RFID folding label can be a good. This RFID label can reduce the impact of metal inside the product.