คลื่นวิทยุมีกี่ประเภท อะไรบ้าง
1. Low Frequency (LF)
ความถี่นี้จะอยู่ในช่วง 30 Khz ถึง 300 Khz. ในเทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID) จะใช้คลื่น 125 KHz ถึง 134 KHz ความสามารถในการส่งข้อมูลในคลื่นนี้ค่อนข้างช้า แต่สามารถใช้งานได้ดีในวัสดุที่เป็นของเหลว หรือโลหะ จะเห็นได้จากตารางข้างต้น วัสดุที่เป็นโลหะ หรือน้ำจะมีลักษณะเป็น RF-friendly ต่อคลื่นความถี่นี้
2. High Frequency (HF)
ความถี่นี้จะอยู่ในช่วง 3 MHz ถึง 30 MHz ความถี่ 13.56 Mhzจะเป็นความถี่ที่มีการใช้งานมากทีสุดในเทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID) เหมือนเช่นกับความถี่ LF ความถี่นี้จะใช้กับ Passive tag เป็นส่วนมาก ความถี่นี้ใช้งานได้ปานกลางในวัสดุที่เป็นโลหะและของเหลว และมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในโรงพยาบาล เพราะความถี่นี้ไม่รบกวนอุปกรณ์ที่โรงพยาบาลใช้งานอยู่ในปัจจุบัน
3. Ultra High Frequency (UHF)
ความถี่นี้จะอยู่ในช่วง 300 MHz ถึง 1 GHz. โดยปกตินี้ความถี่ที่นิยมจะใช้ในความถี่ช่วงนี้คือ 915 MHz ในอเมริกา และ 868 MHz ในยุโรป ส่วนประเทศไทยความถี่ที่อนุญาตให้ใช้คือ 920-925 Mhz
ความถี่ในช่วงนี้สามารถที่จะส่งข้อมูลได้ค่อนข้างเร็ว แต่จะใช้งานไม่ดีในวัสดุที่เป็นโลหะ และของเหลว (ยกเว้น Active RFID) อย่างไรก็ตาม ความถี่นี้ได้มีการนำมาใช้อย่างแพร่หลาย เพราะว่ามีหลายหน่วยงานนำคลื่นความถี่มาใช้ หรือบังคับให้นำความถี่นี้มาใช้งาน เช่น กระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกา
4. Microwave Frequency
ความถี่นี้คือความถี่ที่สูงกว่า 1 GHzขึ้นไป ช่วงความถี่ที่นิยมนำมาใช้ในเทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID) คือ 2.45 GHz และ 5.8 GHz แต่ความถี่ 2.45 GHzจะได้รับความนิยมมากว่า ความถี่นี้สามารถนำมาใช้ทั้ง Passive RFID Tag และ Active RFID Tagความถี่นี้สามารถส่งข้อมูลได้เร็ว แต่ทำงานได้แย่มากเมื่อไปใช้กับวัสดุที่เป็นโลหะและของเหลว
โดยสรุป ลักษณะการใช้งานและคุณสมบัติของคลื่นความถี่แต่ละประเภทสามารถที่จะสรุปได้ดังตารางด้านล้างนี้

Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!